ต่างวัย ต่างมุมมอง เมื่อลูกอยากวางแผนอนาคต แต่พ่อแม่ยังไม่พร้อมเปลี่ยน

ต่างวัย ต่างมุมมอง เมื่อลูกอยากวางแผนอนาคต แต่พ่อแม่ยังไม่พร้อมเปลี่ยน

ในโลกธุรกิจครอบครัวทุกวันนี้ คนรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยเริ่มมองหาแนวทางวางแผนอนาคต ทั้งเรื่องการเติบโตของกิจการ การบริหารความเสี่ยง และ การเตรียมผู้สืบทอดธุรกิจ อย่างเป็นระบบ แต่ในทางกลับกัน พบว่า “พ่อแม่” หรือ “ผู้ก่อตั้ง” ยังรู้สึกว่าเรื่องเหล่านี้ไม่จำเป็นหรือยังเร็วเกินไป โดยบทความนี้จะพาคุณสำรวจสาเหตุเบื้องหลังความต่าง และเสนอแนวทางที่ช่วยให้คนทั้งสองรุ่นเดินหน้าไปด้วยกันได้ โดยไม่รู้สึกว่าต้อง “เสียสละ” หรือ “บังคับ” ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ความห่วงใยของพ่อแม่ vs. ความกังวลของลูก ความแตกต่างด้านมุมมองระหว่างรุ่น มักไม่ได้เกิดจาก “ใครผิด” หรือ “ใครความแตกต่างด้านมุมมองระหว่างรุ่นไม่ได้เกิดจาก “ใครผิด” หรือ “ใครไม่เข้าใจ” แต่เกิดจากประสบการณ์และบทบาทที่ต่างกัน การตัดสินใจเปลี่ยนแปลง เช่น การจัดทำแผนส่งต่อธุรกิจ การตั้งโครงสร้างบริษัทแบบ Holding หรือการทำธรรมนูญครอบครัว จึงอาจถูกมองต่างกัน ทำไมพ่อแม่ถึง “ยังไม่พร้อมเปลี่ยน”? การที่ผู้ก่อตั้งยังไม่เห็นด้วยกับการวางแผนอนาคต อาจมีเหตุผลที่ลึกซึ้งกว่าที่คิด เช่น 1. กลัวเสียการควบคุม การจัดโครงสร้างใหม่ เช่น การแยกกรรมการผู้บริหาร หรือการตั้งระบบโหวต อาจทำให้พ่อแม่รู้สึกว่าตัวเองจะไม่ได้ “เป็นคนตัดสินใจคนสุดท้าย” อีกต่อไป ซึ่งในเชิงจิตวิทยา คือความรู้สึกไม่มั่นคง… Continue reading ต่างวัย ต่างมุมมอง เมื่อลูกอยากวางแผนอนาคต แต่พ่อแม่ยังไม่พร้อมเปลี่ยน

ทำแค่ธุรกิจเดียว เสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ? ถึงเวลาคิดเรื่อง การกระจายธุรกิจ (Diversify) อย่างเป็นระบบ

ทำแค่ธุรกิจเดียว เสี่ยงเกินไปหรือเปล่า

ในอดีต เจ้าของกิจการจำนวนไม่น้อยประสบความสำเร็จจากการทำธุรกิจเดียว และโฟกัสกับสิ่งที่ถนัดที่สุดอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นแบรนด์ที่แข็งแรงในตลาด แต่โลกปัจจุบันไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไป การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ความไม่แน่นอนทั้งด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และพฤติกรรมของลูกค้า ล้วนทำให้ “การฝากทุกอย่างไว้กับธุรกิจเดียว” กลายเป็นความเสี่ยงที่ต้องคิดให้รอบด้าน ในบทความนี้ เราจะพาไปสำรวจว่าเหตุใดการกระจายธุรกิจจึงกลายเป็นเรื่องจำเป็น และควรเริ่มต้นอย่างไร หากคุณต้องการเติบโตอย่างยั่งยืนในวันที่ความแน่นอนไม่ใช่คำตอบ ทำไมธุรกิจเดียวอาจไม่พอแล้วในยุคนี้? 1. ความเสี่ยงที่กระจุกตัว หากคุณมีรายได้หลักจากสินค้าเพียงชนิดเดียว ลูกค้าเพียงกลุ่มเดียว หรือพื้นที่จำหน่ายเพียงช่องทางเดียว ธุรกิจของคุณจะเผชิญกับความเสี่ยงที่เรียกว่า “ไม่กระจายตัว” ซึ่งหมายความว่าเพียงปัจจัยเดียวสะเทือน ก็สามารถทำให้รายได้หายไปอย่างฉับพลัน เช่น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือช่วง COVID-19 หลายธุรกิจที่เคยมั่นคงต้องหยุดชะงัก เพราะพึ่งพาช่องทางรายได้ทางเดียวโดยไม่ได้เตรียมแผนรองรับมาก่อน 2. ธุรกิจเปลี่ยนเร็วเกินคาด แม้คุณจะเป็นผู้นำตลาดในวันนี้ แต่การรักษาตำแหน่งนั้นไว้ได้ตลอดไม่ใช่เรื่องง่าย โลกธุรกิจสมัยนี้แข่งขันกันที่ “ความสามารถในการปรับตัว” มากกว่าทุนหรือประสบการณ์ ยิ่งทำธุรกิจแค่ด้านเดียวโดยไม่มีแผนเผื่อ ความสามารถในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงจะยิ่งจำกัด การกระจายธุรกิจ (Diversify) ไม่ใช่แค่การเปิดกิจการใหม่ คำว่า “Diversify” อาจฟังดูเหมือนต้องเริ่มต้นสิ่งใหม่ทั้งหมด แต่ในความเป็นจริงแล้ว การกระจายธุรกิจสามารถเกิดขึ้นได้หลากหลายวิธี ทั้งแบบต่อยอดจากสิ่งที่มีอยู่ หรือแบบขยายเข้าสู่พื้นที่ใหม่ ๆ ซึ่งแบ่งได้เป็นกลยุทธ์หลัก ๆ ดังนี้ 1.… Continue reading ทำแค่ธุรกิจเดียว เสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ? ถึงเวลาคิดเรื่อง การกระจายธุรกิจ (Diversify) อย่างเป็นระบบ

จากการแข่งขันสู่การร่วมมือ ทำไมยุคนี้ “การควบรวม” จึงสำคัญกว่าการเดินเดี่ยว

การควบรวม

ในโลกธุรกิจยุคใหม่ การยืนหยัดเพียงลำพังอาจไม่ใช่เส้นทางที่มั่นคงอีกต่อไป ธุรกิจที่เคยแข่งขันกันอย่างดุเดือด เริ่มมองเห็นคุณค่าของ “การร่วมมือ” และ “การควบรวม” มากกว่าการเป็นผู้ชนะเพียงลำพัง บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่าเพราะเหตุใดการควบรวมจึงกลายเป็นกลยุทธ์สำคัญในยุคนี้ พร้อมแนวคิดที่ช่วยให้คุณประเมินได้ว่า “ถึงเวลาหรือยัง” ที่บริษัทของคุณจะเริ่มมองหาโอกาสจับมือกับคนอื่น การแข่งขันไม่ใช่คำตอบเดียวอีกต่อไป ในอดีต ธุรกิจเติบโตผ่านการเอาชนะคู่แข่ง แข่งขันกันเรื่องราคา ความเร็ว หรือคุณภาพสินค้า แต่ในยุคที่ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงเร็วเกินกว่าที่ธุรกิจขนาดเล็กจะรับมือคนเดียวได้ “ความได้เปรียบ” กลับไม่ใช่เรื่องของใครวิ่งเร็วที่สุด แต่เป็นเรื่องของใคร “เชื่อมโยงและจัดการเครือข่าย” ได้ดีกว่ากัน เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไว ต้นทุนที่สูงขึ้น พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอย่างไม่หยุดนิ่ง และแรงกดดันจากตลาดทุนและลูกค้า ล้วนบีบให้ธุรกิจต้องหาทางสร้างความได้เปรียบแบบใหม่ และหนึ่งในกลยุทธ์ที่ชัดเจนที่สุด คือ “การควบรวมกิจการ” การควบรวมคืออะไร การควบรวมในความหมายทั่วไป อาจหมายถึงการรวมบริษัทกันแบบเต็มรูปแบบจนเกิดเป็นบริษัทใหม่หรือบริษัทเดียวกัน แต่ในเชิงกลยุทธ์ การควบรวมมีความหมายกว้างกว่านั้นมาก และอาจครอบคลุมถึงการ 1.แลกเปลี่ยนหุ้นเพื่อร่วมทุน บางครั้งการควบรวมไม่ได้อาศัยเงินสดเป็นหลัก แต่ใช้ “หุ้น” เป็นเครื่องมือในการสร้างความร่วมมือ เช่น บริษัท A เข้าถือหุ้นบางส่วนในบริษัท B ขณะเดียวกัน บริษัท B ก็ถือหุ้นในบริษัท A ด้วยในสัดส่วนที่ตกลงกัน การที่ทั้งสองฝ่ายถือหุ้นไขว้กันแบบนี้… Continue reading จากการแข่งขันสู่การร่วมมือ ทำไมยุคนี้ “การควบรวม” จึงสำคัญกว่าการเดินเดี่ยว

อยากให้ธุรกิจส่งต่อได้ แต่ไม่ต้อง ‘ยกทั้งชีวิต’ ให้ลูก Holding Company คือคำตอบ

อยากให้ธุรกิจส่งต่อได้ แต่ไม่ต้อง ‘ยกทั้งชีวิต’ ให้ลูก Holding Company คือคำตอบ

เพราะสิ่งที่คุณสร้างมา มีค่ามากกว่าแค่ทรัพย์สิน ตลอดหลายสิบปีที่คุณลงแรง ลงใจ และเผชิญกับทุกความเสี่ยงในการสร้างธุรกิจขึ้นมาด้วยมือเปล่า คุณอาจไม่ได้หวังอะไรตอบแทนมากนัก แต่ถ้าให้เลือกว่า “สิ่งที่เราสร้างมาจะถูกส่งต่อไปยังคนที่เรารักได้อย่างมั่นคง” หรือ “กลายเป็นภาระ ความขัดแย้ง หรือจุดแตกหักของครอบครัว” ใครก็คงอยากเลือกอย่างแรก นั่นคือเหตุผลที่การวางแผน “การส่งต่อธุรกิจ” ต้องไม่ใช่แค่เรื่องของพินัยกรรม หรือการยกกิจการให้ลูกทั้งหมดในคราวเดียว แต่คือการวางโครงสร้างที่รักษาได้ทั้งคุณค่า ทรัพย์สิน และ ‘ความสัมพันธ์’ ของคนในบ้านและ Holding Company คือเครื่องมือหนึ่งที่ช่วยให้คุณ “ถอยอย่างสง่างาม” โดยไม่ต้องรู้สึกว่า “เราหมดค่า” ความกลัวที่ไม่มีใครพูด: ถ้าให้ลูกไปหมดแล้ว เราจะเหลืออะไร? เจ้าของกิจการหลายคนเคยบอกว่า “เราอยากให้ลูกทำต่อ แต่ก็ยังอยากมีที่ยืนของตัวเอง” คุณอาจอยากเห็นลูกเติบโตในแบบของเขา แต่ในขณะเดียวกันก็ยังอยากรู้ว่าเขากำลังไปทางไหน ยังอยากรู้ว่าสิ่งที่เราสร้างไว้ จะถูกดูแลด้วยใจเหมือนที่เราทำมาหรือไม่ แต่ในหลายกรณี การยกกิจการทั้งหมดให้ลูกในวันเดียว อาจเท่ากับการถอยออกจากภาพทั้งหมดโดยไม่ตั้งใจ ทั้งสิทธิ ทั้งบทบาท และแม้แต่รายได้ และนั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของความเงียบ ความอึดอัด และระยะห่างที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นในครอบครัว Holding Company: โครงสร้างที่ให้คุณถอยได้ โดยไม่หายไป Holding Company… Continue reading อยากให้ธุรกิจส่งต่อได้ แต่ไม่ต้อง ‘ยกทั้งชีวิต’ ให้ลูก Holding Company คือคำตอบ

อยากส่งต่อกิจการให้รุ่นลูก ต้องเริ่มจาก Holding Company

อยากส่งต่อกิจการให้รุ่นลูก ต้องเริ่มจาก Holding Company

การส่งต่อธุรกิจที่ดี ไม่ใช่แค่การส่งต่อทรัพย์สิน แต่คือการส่งต่อระบบที่ทุกคนเข้าใจตรงกัน เจ้าของกิจการจำนวนมากใช้เวลาทั้งชีวิตสร้างธุรกิจให้มั่นคง แต่เมื่อถึงเวลาจะส่งต่อให้ลูกหลาน กลับพบว่าไม่มีระบบอะไรรองรับเลย — ใครจะบริหาร? ใครจะถือหุ้น? คนที่ไม่ทำงานจะมีสิทธิแค่ไหน?สิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีคำตอบอยู่ในพินัยกรรมเพียงอย่างเดียว แต่สามารถจัดการได้ด้วย “โครงสร้าง” ที่ชัดเจนตั้งแต่วันนี้ และหนึ่งในโครงสร้างที่ช่วยได้มากคือ บริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company) Holding Company ช่วยให้การส่งต่อชัดเจนขึ้นได้อย่างไร? 1. รวมทรัพย์สินและกิจการทั้งหมดไว้ในที่เดียว
เมื่อธุรกิจและทรัพย์สินกระจายอยู่ในชื่อบุคคลต่าง ๆ เช่น ผู้ก่อตั้ง ภรรยา ลูก หรือพี่น้อง การจัดการในอนาคตจะยุ่งยากมากขึ้นหลายเท่า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์ การแบ่งสัดส่วน หรือการบริหารความเสี่ยง แต่หากคุณตั้งบริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company) ขึ้นมาเพื่อให้เป็นเจ้าของทรัพย์สินแทนบุคคล แล้วให้สมาชิกครอบครัวถือหุ้นในบริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company)  แทนการถือทรัพย์สินโดยตรง จะทำให้โครงสร้างมีความชัดเจน โปร่งใส และควบคุมได้ง่ายขึ้นมาก 2. แบ่งบทบาทและสิทธิได้อย่างยืดหยุ่น
ในครอบครัวที่มีลูกหลายคน มักเจอปัญหาว่า บางคนอยากทำงานในกิจการ แต่บางคนอยากไปทำอย่างอื่น แต่ก็ยังอยากมีสิทธิในมรดก การถือหุ้นผ่านบริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company) ทำให้คุณสามารถกำหนดได้ว่า ตัวอย่างเช่น ลูกชายคนโตช่วยบริหารโรงงาน… Continue reading อยากส่งต่อกิจการให้รุ่นลูก ต้องเริ่มจาก Holding Company

เริ่มต้นทำธุรกิจอย่างไรให้สามารถเติบโตได้ในอนาคต

เริ่มต้นทำธุรกิจอย่างไรให้สามารถเติบโตได้ในอนาคต

การเริ่มต้นธุรกิจเป็นขั้นตอนที่เต็มไปด้วยความท้าทายแต่ก็เพิ่มโอกาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์และแรงจูงใจในการสร้างสิ่งใหม่ ๆ โดยขั้นตอนแรกคือการค้นหาแนวคิดธุรกิจที่ตรงกับความสนใจและความถนัดของตัวเอง การศึกษาตลาดและกลุ่มเป้าหมายจะช่วยให้เราเข้าใจความต้องการและปัญหาที่ต้องการแก้ไข สิ่งนี้จะเป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการวางแผนธุรกิจในขั้นตอนถัดไป ดังนั้น IPC จึงอยากชวนทุกท่านที่สนใจเริ่มต้นทำธุรกิจมาอ่านบทความที่มีประโยชน์นี้กัน หลังจากมีแนวคิดที่ชัดเจนแล้ว การจัดทำแผนธุรกิจจะช่วยให้การวางกรอบและทิศทางในการดำเนินธุรกิจเป็นระบบมากขึ้น โดยควรประกอบด้วยการวิเคราะห์ตลาด, กลยุทธ์การตลาด, การเงิน, และการบริหารจัดการที่เหมาะสม การมีแผนธุรกิจที่ดีจะช่วยดึงดูดนักลงทุนและให้แนวทางในการตัดสินใจต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน การบริหารจัดการธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความสำเร็จในระยะยาว โดยควรให้ความสำคัญกับการสร้างแบรนด์ การตลาด และการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและพนักงาน รวมถึงการเรียนรู้และปรับตัวตามการเปลี่ยนแปลงของตลาด การมีกระบวนการเรียนรู้จากประสบการณ์จะทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตและพัฒนาได้อย่างยั่งยืนในอนาคต ขั้นตอนและเคล็ดลับสู่ความสำเร็จ 1.กำหนดแนวคิดธุรกิจ ก่อนอื่นคุณต้องมีแนวคิดธุรกิจที่ชัดเจน คิดถึงสิ่งที่รักและสนใจ รวมถึงปัญหาที่ต้องการแก้ไข สำหรับกลุ่มเป้าหมายควรลองทำการสำรวจตลาดเบื้องต้นเพื่อดูว่ามีความต้องการเกี่ยวกับอะไร และเราควรจะไปในทิศทางไหน การกำหนดแนวคิดธุรกิจเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยสร้างพื้นฐานให้กับการดำเนินงานในอนาคต โดยแนวคิดควรสะท้อนถึงความสนใจและความถนัดของผู้ประกอบการ รวมถึงการตอบสนองต่อความต้องการหรือปัญหาที่ผู้บริโภคเผชิญอยู่ การศึกษาและวิเคราะห์ตลาดจะช่วยให้คุณเข้าใจแนวโน้มและช่องว่างที่สามารถเติมเต็มได้ นอกจากนี้ การสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าและการสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในธุรกิจ โดยการใช้วิธีคิดเชิงนวัตกรรมและการสำรวจความคิดใหม่ ๆ จะช่วยให้แนวคิดธุรกิจของคุณมีความสดใหม่และน่าสนใจยิ่งขึ้นในตลาดที่มีการแข่งขันสูง 2.การทำแผนธุรกิจ แผนธุรกิจเป็นเอกสารสำคัญที่ช่วยในการวางกรอบและแนวทางการดำเนินธุรกิจ คุณควรรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตลาด กลุ่มเป้าหมาย การเงิน เป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งแผนนี้จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการดึงดูดและสร้างเป้าหมายให้กับนักลงทุน แผนนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณมองเห็นทิศทางที่ชัดเจนในการดำเนินงาน แต่ยังเป็นเครื่องมือที่สำคัญในการดึงดูดนักลงทุนและพันธมิตรทางธุรกิจ การจัดทำแผนธุรกิจที่ดีจะช่วยให้คุณเตรียมพร้อมสำหรับความท้าทายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น และสามารถปรับกลยุทธ์ตามสถานการณ์ได้อย่างเหมาะสม 3.การจัดตั้งธุรกิจ เมื่อคุณมีแผนธุรกิจแล้ว… Continue reading เริ่มต้นทำธุรกิจอย่างไรให้สามารถเติบโตได้ในอนาคต

บรรยากาศงาน Big Event : A Blueprint for Sustainable Family Business ถอดรหัสความสำเร็จ สู่ธุรกิจครอบครัวยั่งยืน

Big Event "ถอดรหัสความสำเร็จสู่ธุรกิจครอบครัวยั่งยืน"

📸 เก็บตกภาพบรรยากาศสำหรับสัมมนา A Blueprint for Sustainable Family Business : ถอดรหัสความสำเร็จ สู่ธุรกิจครอบครัวยั่งยืน ในวันพุธที่ 30 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ก่อนอื่นทางทีม Idol Planner Consulting ขอขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจสัมมนา A Blueprint for Sustainable Family Business : ถอดรหัสความสำเร็จ สู่ธุรกิจครอบครัวยั่งยืน ในครั้งนี้ 🌟⚡️ บริษัท Idol Planner Consulting ได้จัดสัมมนา A Blueprint for Sustainable Family Business : ถอดรหัสความสำเร็จ สู่ธุรกิจครอบครัวยั่งยืน ณ โรงแรมบันยันทรี กรุงเทพ ในวันพุธที่ 30 ตุลาคม 2567 ซึ่งการสัมมนาในครั้งนี้ เป็นเกียรติอย่างที่ได้… Continue reading บรรยากาศงาน Big Event : A Blueprint for Sustainable Family Business ถอดรหัสความสำเร็จ สู่ธุรกิจครอบครัวยั่งยืน

รวม Study Case เพื่อเป็นเหตุผลว่าทำไมควรทำ Holding Company

Holding Company ดีอย่างไร ควรจัดตั้งหรือไม่ ?

Holding Company ลดความเสี่ยงให้กับบริษัทย่อยด้วยการถือหุ้นของแม่

ทำความรู้จักกับบริษัทโฮลดิ้ง Holding Company

“ที่ปรึกษา” จำเป็นแค่ไหนสำหรับธุรกิจครอบครัว

เคยสงสัยไหมว่านักธุรกิจที่ครอบครองบริษัทระดับร้อยล้านพันล้าน มีประสบการณ์ในแวดวงธุรกิจ แต่ทำไมถึงยังมี “ที่ปรึกษา” สำหรับธุรกิจครอบครัว? . รู้ลึกและมากประสบการณ์ ในฐานะที่ปรึกษา จึงมีโอกาสได้เห็นหลายปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ผ่านหลากหลายครอบครัว สังเกตได้ถึงปัญหาและความผิดปกติที่สมาชิกมองไม่เห็น คาดเดาผลลัพธ์และสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ จนเป็นที่มาของแนวทางการแก้ปัญหาและวิธีป้องกันการเกิดซ้ำในอนาคต . เข้าใจระบบธุรกิจและกติกาของครอบครัว เพราะหน้าที่ที่สำคัญของที่ปรึกษา คือช่วยในการร่างธรรมนูญครอบครัวขึ้นมา เพื่อสร้างเป็นกติกาให้สมาชิกทุกคนยอมรับร่วมกัน โดยในระหว่างนั้นเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ที่ปรึกษาจะรับหน้าที่เจรจาไกล่เกลี่ย หาทางออกที่ทุกฝ่ายยอมรับได้และเกิดผลประโยชน์มากที่สุด . มีทักษะความสัมพันธ์ระหว่างคน สำหรับธุรกิจครอบครัว ความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ที่ปรึกษาต้องจะมีความสามารถทำงานร่วมกับสมาชิกทุกคนได้ ถือเป็นทักษะจำเป็นในการหาจุดสมดุลของครอบครัวทั้งระบบ . ที่ปรึกษา จึงไม่ใช่เพียงที่ปรึกษาด้านธุรกิจ แต่เป็นทั้งที่ปรึกษาด้านครอบครัวไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งความสัมพันธ์ของคนเหล่านี้จะส่งผลต่อ Performance ของธุรกิจโดยตรง . เพราะครอบครัวยิ่งขยายใหญ่เท่าไหร่ ปัญหาภายในก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น อัตราการอยู่รอดของธุรกิจครอบครัวน้อยลงในทุก ๆ รุ่น . Idol Planner ในฐานะที่ปรึกษาธุรกิจครอบครัวที่มีประสบการณ์มามากกว่า 20 ปี สามารถช่วยสร้างธรรมนูญครอบครัวที่สร้างความเป็นปึกแผ่นให้กับสมาชิก และป้องกันความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต . รวมถึงการวางแผนส่งธุรกิจได้อย่างราบรื่น ไร้ปัญหาศึกสายเลือด อย่างเป็นระบบและโปร่งใส… Continue reading “ที่ปรึกษา” จำเป็นแค่ไหนสำหรับธุรกิจครอบครัว