ทำแค่ธุรกิจเดียว เสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ? ถึงเวลาคิดเรื่อง การกระจายธุรกิจ (Diversify) อย่างเป็นระบบ

ทำแค่ธุรกิจเดียว เสี่ยงเกินไปหรือเปล่า

ในอดีต เจ้าของกิจการจำนวนไม่น้อยประสบความสำเร็จจากการทำธุรกิจเดียว และโฟกัสกับสิ่งที่ถนัดที่สุดอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นแบรนด์ที่แข็งแรงในตลาด แต่โลกปัจจุบันไม่ได้เหมือนเดิมอีกต่อไป การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ความไม่แน่นอนทั้งด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และพฤติกรรมของลูกค้า ล้วนทำให้ “การฝากทุกอย่างไว้กับธุรกิจเดียว” กลายเป็นความเสี่ยงที่ต้องคิดให้รอบด้าน ในบทความนี้ เราจะพาไปสำรวจว่าเหตุใดการกระจายธุรกิจจึงกลายเป็นเรื่องจำเป็น และควรเริ่มต้นอย่างไร หากคุณต้องการเติบโตอย่างยั่งยืนในวันที่ความแน่นอนไม่ใช่คำตอบ ทำไมธุรกิจเดียวอาจไม่พอแล้วในยุคนี้? 1. ความเสี่ยงที่กระจุกตัว หากคุณมีรายได้หลักจากสินค้าเพียงชนิดเดียว ลูกค้าเพียงกลุ่มเดียว หรือพื้นที่จำหน่ายเพียงช่องทางเดียว ธุรกิจของคุณจะเผชิญกับความเสี่ยงที่เรียกว่า “ไม่กระจายตัว” ซึ่งหมายความว่าเพียงปัจจัยเดียวสะเทือน ก็สามารถทำให้รายได้หายไปอย่างฉับพลัน เช่น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือช่วง COVID-19 หลายธุรกิจที่เคยมั่นคงต้องหยุดชะงัก เพราะพึ่งพาช่องทางรายได้ทางเดียวโดยไม่ได้เตรียมแผนรองรับมาก่อน 2. ธุรกิจเปลี่ยนเร็วเกินคาด แม้คุณจะเป็นผู้นำตลาดในวันนี้ แต่การรักษาตำแหน่งนั้นไว้ได้ตลอดไม่ใช่เรื่องง่าย โลกธุรกิจสมัยนี้แข่งขันกันที่ “ความสามารถในการปรับตัว” มากกว่าทุนหรือประสบการณ์ ยิ่งทำธุรกิจแค่ด้านเดียวโดยไม่มีแผนเผื่อ ความสามารถในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงจะยิ่งจำกัด การกระจายธุรกิจ (Diversify) ไม่ใช่แค่การเปิดกิจการใหม่ คำว่า “Diversify” อาจฟังดูเหมือนต้องเริ่มต้นสิ่งใหม่ทั้งหมด แต่ในความเป็นจริงแล้ว การกระจายธุรกิจสามารถเกิดขึ้นได้หลากหลายวิธี ทั้งแบบต่อยอดจากสิ่งที่มีอยู่ หรือแบบขยายเข้าสู่พื้นที่ใหม่ ๆ ซึ่งแบ่งได้เป็นกลยุทธ์หลัก ๆ ดังนี้ 1.… Continue reading ทำแค่ธุรกิจเดียว เสี่ยงเกินไปหรือเปล่า ? ถึงเวลาคิดเรื่อง การกระจายธุรกิจ (Diversify) อย่างเป็นระบบ

6 วิธีการเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจ: สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน แข็งแกร่ง และดึงดูดใจนักลงทุน

6 วิธีการเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจ: สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน แข็งแกร่ง และดึงดูดใจนักลงทุน

การเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจไม่ใช่แค่การเพิ่มยอดขายหรือกำไรระยะสั้น แต่คือการวางรากฐานให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคง และเป็นที่สนใจของนักลงทุนในระยะยาว โดยเฉพาะในกรณีที่คุณต้องการระดมทุน ขยายกิจการ หรือส่งต่อธุรกิจให้ลูกหลานในอนาคต การวางแผนอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องคือหัวใจสำคัญของการสร้างมูลค่าอย่างแท้จริง สร้างนวัตกรรมและจุดเด่นให้ธุรกิจ ธุรกิจที่เติบโตได้ในระยะยาวต้องไม่หยุดพัฒนา คุณควรลงทุนในนวัตกรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงสินค้า บริการ หรือกระบวนการภายในให้ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้ดีกว่าเดิม ธุรกิจที่มีเอกลักษณ์ มีข้อเสนอที่แตกต่าง และสามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้แบบที่คู่แข่งทำไม่ได้ จะสร้างความภักดีและขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้น นอกจากนี้ การใช้เทคโนโลยี เช่น AI, Big Data, หรือระบบอัตโนมัติ ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน ไม่ใช่แค่เรื่องการประหยัดต้นทุนเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง ตัดสินใจเร็วขึ้น และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าได้มากกว่าคู่แข่ง การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดกว้างต่อความคิดใหม่ๆ ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะนวัตกรรมไม่ได้มาจากเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากคนในองค์กรที่กล้าคิด กล้าลอง และเรียนรู้จากความผิดพลาดเช่นกัน ขยายตลาด เพิ่มลูกค้าให้หลากหลาย อย่าพึ่งพาตลาดเดิมเพียงอย่างเดียว เพราะแม้ตลาดเดิมจะยังทำรายได้อยู่ แต่ในระยะยาวความเสี่ยงจากการแข่งขัน หรือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค อาจส่งผลกระทบได้ การมองหาตลาดใหม่ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือต่างประเทศ การใช้ช่องทางการขายหลากหลายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับกลุ่มเป้าหมายใหม่ ล้วนช่วยเพิ่มรายได้ให้มั่นคงมากขึ้น อีกหนึ่งเรื่องที่มองข้ามไม่ได้คือ การดูแลลูกค้าเก่าให้กลายเป็นลูกค้าประจำ เพราะลูกค้าเดิมที่พึงพอใจมีแนวโน้มจะกลับมาซื้อซ้ำ แนะนำให้ผู้อื่น และช่วยสร้างแบรนด์โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณาเพิ่มเติม คุณควรมีระบบ CRM ที่ช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมลูกค้า… Continue reading 6 วิธีการเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจ: สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน แข็งแกร่ง และดึงดูดใจนักลงทุน

รวม Study Case เพื่อเป็นเหตุผลว่าทำไมควรทำ Holding Company

Holding Company ดีอย่างไร ควรจัดตั้งหรือไม่ ?

กลยุทธ์สำหรับการขยายธุรกิจ Start Up ในตลาดที่แข็งแกร่ง

กลยุทธ์สำหรับการขยายธุรกิจ Start Up ในตลาดที่แข็งแกร่ง

การเริ่มต้นธุรกิจ Start Up นั้นเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่การขยายธุรกิจในตลาดที่เต็มไปด้วยคู่แข่งที่แข็งแกร่ง ย่อมยากยิ่งกว่า Start Up จำนวนมากต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกับบริษัทที่เก๋าเกม มีทรัพยากรมากกว่า เงินทุนจำกัดหรือแม้แต่การเข้าถึงลูกค้า อย่างไรก็ตามหากมีกลยุทธ์ที่ถูกต้องพร้อมด้วยการวางแผนอย่างรอบคอบและความมุ่งมั่น ธุรกิจ Start Up สามารถเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้และประสบความสำเร็จได้ วันนี้ IdolPlanner จึงขอนำเสนอกลยุทธ์สำคัญสำหรับการขยายธุรกิจ Start Up ในตลาดที่แข็งแกร่งซึ่งครอบคลุมถึง 7 หัวข้อหลัก ดังนี้ 1.การระบุจุดแข็งที่ไม่เหมือนใคร จุดเริ่มต้นที่สำคัญคือ การค้นหาจุดแข็งที่ไม่เหมือนใครของธุรกิจคุณหรือความเป็นเอกลักษณ์ อะไรคือสิ่งที่ทำให้ธุรกิจของคุณแตกต่างจากคู่แข่ง? คุณมีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย? เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเฉพาะทางที่คู่แข่งเข้าไม่ถึง? หรือมีบริการที่เหนือกว่า? การระบุจุดแข็งหรือเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร จะช่วยให้คุณสร้างกลยุทธ์การขยายธุรกิจที่มุ่งเน้นไปที่จุดแข็งเหล่านี้ โดยสามารถดึงดูดลูกค้าที่สนใจ และสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งของคุณ 2.การมุ่งเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ แทนที่จะพยายามเข้าถึงทุกคน ธุรกิจ Start Up ควรเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ โดยการระบุกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของคุณ จะช่วยให้คุณกำหนดกลยุทธ์การตลาด การขายและพัฒนาสินค้าหรือบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถลองวิเคราะห์ได้จากว่าลูกค้าของคุณเป็นใคร? พวกเขามีความต้องการอะไร? พวกเขาใช้ช่องทางการสื่อสารใด? เมื่อคุณเข้าใจกลุ่มเป้าหมายของคุณแล้ว คุณสามารถปรับแต่งข้อความ ภาพและเนื้อหาทั้งหมดของคุณเพื่อดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3.การสร้างความสัมพันธ์ การสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญในอุตสาหกรรมของคุณนั้น เป็นอีกหนึ่งหนทางสำคัญสู่ความสำเร็จ… Continue reading กลยุทธ์สำหรับการขยายธุรกิจ Start Up ในตลาดที่แข็งแกร่ง

Holding Company ลดความเสี่ยงให้กับบริษัทย่อยด้วยการถือหุ้นของแม่

ทำความรู้จักกับบริษัทโฮลดิ้ง Holding Company

M-150 ชวนมารู้จักธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลังแบบใจฟู

M-150 ชวนมารู้จักธุรกิจเครื่องดื่มดูกำลังแบบใจฟู

เครื่องดื่มชูกำลังอันดับ 1 ในประเทศไทย

ชำแหละข้อดี Holding Company ทั้งด้านภาษีและการส่งต่อ

Holding Company คือ บริษัทที่มีการประกอบธุรกิจ โดยมีรายได้จากการถือหุ้นในบริษัทอื่นเป็นหลัก ไม่ได้มีธุรกิจเป็นของตนเอง อาจเป็นการลงทุนทั้งบริษัทในไทยและต่างประเทศก็ได้ และต้องถือหุ้นในบริษัทย่อยอย่างน้อย 1 บริษัท ซึ่งจะทำให้มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการในบริษัทย่อยตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยรายได้จะอยู่ในรูปแบบของเงินปันผล ซึ่งจะเป็นส่วนที่ได้รับการยกเว้นภาษีนิติบุคคล เนื่องจากเงินจำนวนนี้ได้มีการเสียภาษีมาแล้วในนามของบริษัทย่อย ถ้ามีการเก็บภาษีอีกรอบ จะเป็นการเสียภาษีซ้ำซ้อน ด้วยคอนเซปต์ของบริษัทโฮลดิ้งและประโยชน์ทางด้านภาษี จึงทำให้เป็นโมเดลที่ได้รับความนิยมในกิจการที่เป็นธุรกิจครอบครัว ที่จะมีการตั้งบริษัทแม่มาถือหุ้นในบริษัทลูก ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดด้านภาษีแล้ว ยังง่ายต่อการส่งต่อธุรกิจครอบครัวอีกด้วย แต่จะง่ายและดีอย่างไรนั้น Idol Planner จะพามาชำแหละข้อดีของบริษัทโฮลดิ้งด้านภาษีและด้านการส่งต่อ ข้อดีด้านภาษีของบริษัทโฮลดิ้ง ในกรณีที่บริษัทโฮลดิ้งถือหุ้นในบริษัทย่อยตามเกณฑ์ที่สรรพากรกำหนดคือ ถ้ามีคุณสมบัติตามเกณฑ์ที่กำหนดบริษัทโฮลดิ้ง ก็จะได้รับยกเว้นภาษี เช่น ข้อดีด้านการลงทุนของบริษัทโฮลดิ้ง บริษัทโฮลดิ้งจะได้รับเงินปันผลแบบเต็มจำนวน โดยเงินจำนวนนี้สามารถนำไปลงทุนในบริษัทอื่น ๆ ที่ต้องการขยายกิจการได้ ทั้งยังนำมาใช้จัดสรรเป็นสวัสดิการให้กับคนในครอบครัวได้อีกด้วย ในส่วนของการจัดสรรสวัสดิการนี้ ถ้ามีการวางแผนภาษีดี ก็จะสามารถได้รับยกเว้นภาษีหรือต้องเสียภาษีน้อยไปอีกขั้น ข้อดีด้านโครงสร้างบริษัทของบริษัทโฮลดิ้ง เมื่อธุรกิจครอบครัวมีกิจการหลาย ๆ บริษัทอยู่ในมือ ปัญหาที่มักเกิดขึ้นคือโครงสร้างที่ไม่ชัดเจน ถ้ามีการปรับโครงสร้างเข้าสู่บริษัทโฮลดิ้ง โครงสร้างภายในเครือก็จะมีความชัดเจนขึ้น ไม่กระจัดกระจาย สามารถตรวจสอบได้ง่ายและเป็นระบบ บริษัทแม่สามารถเห็นผลประกอบการทั้งหมดของบริษัทในเครือได้ชัดเจน ซึ่งจะง่ายต่อการจัดสรรเงินสวัสดิการและการนำไปลงทุนต่อยอดในกิจการต่าง ๆ  ข้อดีด้านการส่งต่อกิจการของบริษัทโฮลดิ้ง เพื่อความยั่งยืนของธุรกิจครอบครัว สำหรับบริษัทโฮลดิ้งจึงมักจะมีการกำหนดเรื่องของการส่งต่อกิจการแบบรุ่นสู่รุ่น แบบที่ทายาทไม่สามารถยกมรดกให้กับคู่สมรสหรือให้ใครก็ได้ตามใจชอบ… Continue reading ชำแหละข้อดี Holding Company ทั้งด้านภาษีและการส่งต่อ

ทำไมเจ้าของธุรกิจต้องตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ เพื่อถือหุ้นแทนตัวเอง

เคยสงสัยไหมว่าทำไมหลาย ๆ ธุรกิจ ถึงได้ตั้งบริษัทขึ้นมาหนึ่งแห่ง เพื่อถือหุ้นบริษัทภายในเครือแทนชื่อของตัวเอง? . เช่น Alphabet ของ Google ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อถือหุ้นของบริษัทลูกทั้งหมด แม้แต่บริษัทเซ็นทรัลพัฒนา ก็มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คือบริษัทเซ็นทรัลโฮลดิ้งจำกัด . บริษัทเหล่านี้เรียกกันว่า บริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company) คือบริษัทที่มีการประกอบธุรกิจโดยมีรายได้จากการถือหุ้นในบริษัทอื่นเป็นหลัก . นิยมใช้ในธุรกิจแบบกงสีหรือธุรกิจครอบครัว ด้วยการจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้ง เพื่อถือหุ้นแทนสมาชิกในครอบครัว เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรักษาผลประโยชน์ด้านภาษี . ประโยชน์ด้านภาษี เมื่อบริษัทลูกปันผลให้กับบริษัทโฮลดิ้ง ไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย และเมื่อโฮลดิ้งได้รับเงินปันผล ก็ไม่ต้องเสียภาษีนิติบุคคล ทั้งบริษัทโฮลดิ้งยังได้รับเงินค่าดอกเบี้ยจากการให้บริษัทลูกกู้ยืมโดยไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ถือเป็นประโยชน์ด้านภาษีอย่างยิ่ง ยิ่งธุรกิจมีมูลค่าสูงมากเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายด้านภาษีก็จะประหยัดไปเป็นเม็ดเงินจำนวนมหาศาล . ประโยชน์ในการป้องกันความเสี่ยง สมมุติไม่มีการจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งขึ้นมาถือหุ้นและให้สมาชิกแต่ละคนถือหุ้นในนามตัวเอง เมื่อมีการแตกคอกันขึ้นในอนาคต มีเปอร์เซ็นต์สูงมากที่สมาชิกบางคนอาจนำหุ้นของตัวเองขายให้กับบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่คนในครอบครัว . รวมถึงป้องกันความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก เช่น บริษัทลูก A ถูกฟ้องร้องขึ้นมา อาจร้ายแรงถึงขั้นล้มละลาย ความเสียหายนั้นจะเกิดขึ้นเฉพาะในบริษัทลูก A บริษัทแม่อย่าง Holding Company และบริษัทลูกอื่น… Continue reading ทำไมเจ้าของธุรกิจต้องตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ เพื่อถือหุ้นแทนตัวเอง

Holding Company เคล็ดลับความยั่งยืนของธุรกิจครอบครัว

Holding Company กลยุทธ์ในการบริหารทรัพย์สิน ในกรณีที่ครอบครัวมีหลายกิจการ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า โฮลดิ้งจะเป็นการตั้งบริษัทแม่ขึ้นมา เพื่อเป็นผู้ถือหุ้นหลักในบริษัทย่อย โดยรายชื่อผู้ถือหุ้นก็จะเป็นสมาชิกในครอบครัว และรับเงินปันผลเป็นสวัสดิการ . ช่วยจำกัดความเสี่ยง ยกตัวอย่างในกรณีที่ธุรกิจย่อย มีคดีความฟ้องร้องขึ้นมา เสี่ยงต่อความเสียหายที่อาจถึงขั้นทำให้ล้มละลาย แต่ถ้าจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้ง เจ้าหนี้จะฟ้องร้องได้เพียงกิจการนั้น ๆ เท่านั้น โดยไม่มีความเสียหายมาถึงบริษัทแม่ . ลดภาระภาษี – เมื่อบริษัทย่อยปันผลให้กับบริษัทโฮลดิ้ง ไม่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย – เมื่อบริษัทโฮลดิ้งได้รับเงินปันผล ไม่ต้องเสียงภาษีนิติบุคคล – บริษัทโฮลดิ้งได้รับเงินค่าดอกเบี้ยจากการให้บริษัทลูกกู้ยืมโดยไม่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ . จัดการทรัพย์สินได้สะดวก ช่วยให้เห็นผลประกอบการ กำไร-ขาดทุน ของธุรกิจแต่ละส่วนได้ชัดเจน หรือในขั้นตอนแบ่งทรัพย์สิน สามารถย้ายกิจการให้ลูก ๆ ด้วยการออกหุ้นในนามโฮลดิ้งได้อย่างเป็นสัดส่วน . ลดภาระทางด้านกฎหมาย ผู้ถือหุ้นไม่ต้องเข้าประชุมทุกบริษัทที่ถือหุ้นอยู่ สามารถเข้าประชุมในเครือโฮลดิ้ง แห่งเดียว ก็สามารถทราบรายละเอียดทั้งหมดของทุกกิจการได้ . จัดโครงสร้างเป็นระบบ รองรับการขยายกิจการ เมื่อมีผู้ลงทุนจากภายนอกร่วมถือหุ้น การมีบริษัทโฮลดิ้งจะช่วยรักษาอำนาจความเป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดี .… Continue reading Holding Company เคล็ดลับความยั่งยืนของธุรกิจครอบครัว

จดทะเบียนบริษัท ใช้เงินเท่าไหร่ สามารถทำเองได้ไหม

ไม่ว่าจะเป็นบริษัทเล็กหรือใหญ่ ประกอบกิจการมาหลายปี แต่ก็ยังมีบางบริษัทที่ประกอบธุรกิจSME หรือธุรกิจครอบครัว ที่ยังไม่ได้จดทะเบียนบริษัทและมีความคิดที่จะจดทะเบียนบริษัท คงกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับขั้นตอนการจดทะเบียนบริษัทอยู่ Idol Planner จึงถือโอกาส รวบรวมคำถามที่หลาย ๆ ธุรกิจสงสัยเกี่ยวกับทุนสำหรับจดทะเบียนบริษัทมาไว้ในบทความนี้