พินัยกรรมที่ดี ควรช่วยลดปัญหา ไม่ใช่เพิ่มคดีความ

พินัยกรรมเป็นเอกสารทางกฎหมายที่สะท้อนเจตนารมณ์สุดท้ายของเจ้ามรดกในการจัดการทรัพย์สินและพันธะต่าง ๆ หลังเสียชีวิตอย่างมีระบบ เป็นเหมือนเข็มทิศที่ช่วยนำทางให้ครอบครัวสามารถก้าวข้ามช่วงเวลาแห่งการสูญเสียไปได้ด้วยความสงบ และลดโอกาสที่จะเกิดข้อพิพาททางกฎหมายหรือความบาดหมางภายในครอบครัว

อย่างไรก็ตาม พินัยกรรมจำนวนไม่น้อยกลับกลายเป็นต้นเหตุของปัญหา ทั้งจากถ้อยคำที่กำกวม การละเลยรายละเอียด หรือไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย ซึ่งอาจทำให้เกิดคดีความยืดเยื้อ เป็นภาระหนักทั้งใจและเวลา ดังนั้น การจัดทำพินัยกรรมจึงไม่ควรเป็นเพียงเรื่องของการแบ่งทรัพย์สิน แต่คือการสร้างมรดกแห่งความชัดเจน ความยุติธรรม และความรักที่ส่งต่อได้จริง

1. พินัยกรรมที่ดี เริ่มต้นจากความชัดเจนทุกรายละเอียด

ความชัดเจนคือหัวใจสำคัญที่สุดของพินัยกรรม ไม่ว่าจะเป็นการระบุทรัพย์สิน ผู้รับมรดก เงื่อนไข หรือแนวทางการจัดการ คำศัพท์หรือภาษาที่กำกวม เช่น “ให้ลูกทุกคนเท่า ๆ กัน” อาจนำไปสู่การตีความที่หลากหลายและกลายเป็นปัญหาใหญ่

ควรระบุข้อมูลของทรัพย์สินให้เจาะจงที่สุด เช่น “ให้ที่ดินโฉนดเลขที่ 1234 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร แก่นาย A” หรือหากเป็นทรัพย์สินที่มีลักษณะเฉพาะอย่างเครื่องเพชร งานศิลปะ ของสะสม ควรแนบรูปถ่ายหรือคำอธิบายเพิ่มเติมให้แน่ชัด

นอกจากนั้น การกำหนดผู้รับมรดกก็ต้องชัดเจนไม่แพ้กัน ไม่ควรใช้คำกว้าง ๆ เช่น “ญาติพี่น้อง” หรือ “ทายาทของข้าพเจ้า” แต่ให้ใช้ชื่อ-นามสกุลเต็ม พร้อมข้อมูลยืนยันตัวบุคคลเพื่อป้องกันความสับสน โดยเฉพาะในครอบครัวที่มีบุตรหลายคน หรือมีความซับซ้อนเรื่องสายสัมพันธ์

2. ต้องถูกต้องตามกฎหมายจึงจะมีผลบังคับใช้

แม้เนื้อหาจะรัดกุมแค่ไหน แต่หากไม่ปฏิบัติตามรูปแบบที่กฎหมายกำหนด พินัยกรรมก็อาจตกเป็นโมฆะได้โดยง่าย กฎหมายไทยกำหนดรูปแบบพินัยกรรมไว้อย่างชัดเจน เช่น

  • พินัยกรรมเขียนเองทั้งฉบับ (Holographic Will): ต้องเขียนด้วยลายมือผู้ทำเอง ลงลายมือชื่อ และระบุวันที่ชัดเจน
  • พินัยกรรมทำต่อหน้าพยาน (Attested Will): ผู้ทำต้องลงชื่อหน้าพยานอย่างน้อย 2 คน และพยานต้องเซ็นรับรองต่อหน้ากันและกัน
  • พินัยกรรมแบบอื่น เช่น เอกสารลับ หรือทำต่อหน้าเจ้าพนักงาน ก็มีข้อกำหนดเฉพาะ

นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดเรื่องคุณสมบัติของผู้ทำพินัยกรรม ซึ่งต้องมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ และมีอายุไม่น้อยกว่า 15 ปีบริบูรณ์ ส่วนพยานก็ต้องไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสีย ไม่ใช่ผู้รับมรดก หรือบุคคลที่อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อน

3. คิดให้ครอบคลุมทั้งทรัพย์สิน หนี้สิน และแผนสำรอง

การทำพินัยกรรมควรมองให้กว้างกว่าทรัพย์สินที่เรานึกออกในทันที ควรครอบคลุมทั้งทรัพย์สินที่เป็นรูปธรรม เช่น บ้าน ที่ดิน รถยนต์ เงินฝาก หุ้น กองทุน ตลอดจนทรัพย์สินดิจิทัลอย่างบัญชีออนไลน์ เหรียญคริปโต NFT หรือคอลเลกชันออนไลน์

ไม่เพียงแต่เรื่องทรัพย์สิน แต่ควรรวมถึงหนี้สินที่ยังค้างอยู่ด้วย เช่น สินเชื่อบ้าน หนี้จากธุรกิจ หรือหนี้บัตรเครดิต พร้อมแนวทางการชำระ เช่น ใช้ทรัพย์สินส่วนใดไปปิด หรือใครจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อ

และเพื่อป้องกันเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เช่น ผู้รับมรดกเสียชีวิตก่อน ควรมีแผนสำรองว่าทรัพย์สินส่วนนั้นจะตกเป็นของใคร หรือเข้าสู่ทรัพย์มรดกส่วนรวม

4. อย่ามองข้ามภาษีมรดกและภาระทางการเงิน

การวางแผนพินัยกรรมอย่างมีประสิทธิภาพควรมองภาพรวมเรื่องภาษีด้วย โดยเฉพาะหากทรัพย์สินรวมมีมูลค่าสูง เพราะภายใต้กฎหมายไทย ผู้รับมรดกจะเสียภาษีในอัตราต่างกัน เช่น บุตรเสียภาษี 5% หากได้รับเกิน 100 ล้านบาท ขณะที่บุคคลทั่วไปต้องเสียถึง 10%

การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจึงสำคัญ อาจใช้กลยุทธ์เสริม เช่น ทยอยโอนทรัพย์สินก่อนเสียชีวิต การตั้งโฮลดิ้งบริษัท หรือทำประกันชีวิตเพื่อใช้เงินก้อนจ่ายภาษีมรดก ก็ช่วยลดความยุ่งยากให้ทายาทในอนาคตได้

5. แต่งตั้งผู้จัดการมรดกอย่างเหมาะสม

พินัยกรรมที่ดีควรระบุผู้จัดการมรดกไว้ชัดเจน โดยเลือกผู้ที่น่าเชื่อถือ มีความสามารถ และได้รับความไว้วางใจจากทายาท หากไม่มีผู้จัดการมรดกที่เป็นกลาง ทายาทอาจขัดแย้งกันเองในกระบวนการแบ่งทรัพย์นอกจากนี้ ควรระบุขอบเขตอำนาจของผู้จัดการมรดก เช่น มีสิทธิ์ขายทรัพย์สินหรือไม่ ต้องรายงานบัญชีต่อศาลหรือครอบครัวอย่างไร และควรมีผู้จัดการมรดกสำรองไว้กรณีคนแรกไม่สามารถทำหน้าที่ได้

6. ทบทวนพินัยกรรมอย่างสม่ำเสมอ และอัปเดตเมื่อมีเหตุสำคัญ

ชีวิตเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ทั้งการแต่งงาน หย่าร้าง มีลูก หรือแม้แต่การได้มาซึ่งทรัพย์สินใหม่ การทบทวนพินัยกรรมทุก 3-5 ปี หรือเมื่อเกิดเหตุการณ์สำคัญจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้เอกสารยังสอดคล้องกับเจตนารมณ์และสถานการณ์ปัจจุบัน การปรึกษาทนายความหรือนักวางแผนมรดกก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้พินัยกรรมมีความสมบูรณ์ ถูกต้องตามกฎหมาย และไม่มีจุดอ่อนที่อาจนำไปสู่การฟ้องร้องภายหลัง

7. ใส่กลไกไกล่เกลี่ยไว้ในพินัยกรรมได้เช่นกัน

เจ้ามรดกบางรายอาจต้องการป้องกันการฟ้องร้องระหว่างทายาทโดยตรง จึงเลือกใส่ข้อกำหนดให้มีการไกล่เกลี่ยหรืออนุญาโตตุลาการก่อนจะนำคดีขึ้นศาล ข้อกำหนดนี้แม้ไม่ใช่เรื่องจำเป็น แต่สามารถเป็นกลไกช่วยลดความรุนแรงของข้อพิพาทในครอบครัวได้จริง

พินัยกรรมที่ดี คือการดูแลครอบครัวแม้ในวันที่เราไม่อยู่

ไม่ใช่แค่เอกสารที่แบ่งทรัพย์ แต่คือคำสั่งเสียที่สะท้อนความห่วงใย และเจตนารมณ์อันแน่วแน่ของผู้ที่จากไป การทำพินัยกรรมอย่างรอบคอบ ชัดเจน และถูกต้อง จึงเปรียบเสมือนของขวัญชิ้นสุดท้ายที่เรามอบให้ครอบครัว — เพื่อให้พวกเขาก้าวต่อไปด้วยความรักและความเข้าใจ ไม่ใช่ข้อพิพาทและคดีความ

Idolplanner Consulting พร้อมอยู่เคียงข้างคุณในการวางแผนพินัยกรรมที่ดีอย่างมืออาชีพ ครอบคลุมทั้งกฎหมาย ทรัพย์สิน ภาษี และการสื่อสารภายในครอบครัว เพื่อสร้างมรดกแห่งสันติสุขที่แท้จริง

บทความนำแนะ


สำหรับท่านที่ต้องการสอบถามหรือรับคำปรึกษาเบื้องต้น
สามารถกรอกรายละเอียดได้ที่ฟอร์มแนบ
https://forms.gle/YMvaxRmnpqiNUGdVA

หรือติดต่อตามช่องทางที่ปรากฎไว้ดังนี้
Line : @idolplanner
Tel : 02-010-8823

ติดต่อเราบริษัท Idol Planner Consulting ตอนนี้เลย

ผู้นำด้านการบริหารจัดการธุรกิจครอบครัว

ธุรกิจครอบครัว-กงสี คืองานถนัดของเรา

บริษัท ไอดอลแพลนเนอร์ จำกัด พร้อมช่วยสร้างความชัดเจนและความเป็นมืออาชีพให้กับธุรกิจครอบครัว ด้วยโซลูชั่นที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจครอบครัวโดยเฉพาะ พันธกิจของเราคือการช่วยเหลือให้ธุรกิจของครอบครัวคุณเติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นปึกแผ่นให้กับครอบครัวของคุณ