5 ความเข้าใจผิดของเจ้าของกิจการเกี่ยวกับธรรมนูญครอบครัว

ธรรมนูญครอบครัวไม่ใช่เอกสารที่ซับซ้อน แต่คือหัวใจของธุรกิจครอบครัวที่ยั่งยืน

หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “Family Constitution” หรือ “ธรรมนูญครอบครัว” แล้วเข้าใจว่าเป็นเรื่องซับซ้อน เหมาะกับบ้านที่เป็นกงสีขนาดใหญ่หรือบ้านที่มีบริษัทระดับร้อยล้านพันล้านเท่านั้น

แต่ในความเป็นจริง ครอบครัวที่มีธุรกิจร่วมกัน แม้จะเป็นกิจการขนาดกลางหรือเล็ก หรือมีทายาทเป็นลูกเพียงแค่ 2 คน หากไม่มีแนวทางร่วมในการบริหารจัดการ ก็มีความเสี่ยงต่อความขัดแย้ง และทำให้ธุรกิจสะดุดได้ไม่ต่างจากกลุ่มทุนใหญ่

หรือหลายคนก็เชื่อว่าธุรกิจครอบครัวจะอยู่รอดได้ด้วยความรัก ความเข้าใจ หรือความสนิทสนมของคนในบ้าน แต่เมื่อธุรกิจเติบโต มีทรัพย์สิน มีลูกหลานหลายรุ่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ความสัมพันธ์เหล่านั้นอาจไม่พอ และเมื่อเกิดความขัดแย้ง เรากลับพบว่าครอบครัวส่วนใหญ่มักยังไม่มี “ธรรมนูญครอบครัว” ที่จะเป็นตัวกลางในการแก้ปัญหา

บทความนี้จะชวนมาสำรวจ 5 ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยที่สุดเกี่ยวกับธรรมนูญครอบครัว และอธิบายว่าทำไมความเข้าใจใหม่จะช่วยเปลี่ยนอนาคตของทั้งธุรกิจและครอบครัวไปในทางที่ดีขึ้นได้

ความเข้าใจผิดที่ 1 “ครอบครัวเราไม่ได้ใหญ่ ไม่ต้องทำธรรมนูญครอบครัวก็ได้”

นี่เป็นประโยคที่ได้ยินบ่อยที่สุดจากเจ้าของกิจการรุ่นแรกหรือรุ่นสอง โดยเฉพาะครอบครัวที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น หรือมีธุรกิจเพียงแห่งเดียว

แต่ความจริงแล้ว ขนาดของธุรกิจไม่ใช่ปัจจัยหลัก ที่จะบอกว่า “ควรทำ” หรือ “ไม่ควรทำ” ธรรมนูญครอบครัว สิ่งสำคัญคือ “จำนวนสมาชิกที่เกี่ยวข้อง” และ “ความซับซ้อนของความสัมพันธ์ในครอบครัว” ต่างหาก

ตัวอย่างเช่น แม้คุณจะมีเพียงกิจการเดียว แต่มีลูก 3 คน หลาน 2 คน และพี่น้องร่วมถือหุ้นอีก 1 คน นั่นเท่ากับว่ามี “ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย” อย่างน้อย 6 คน และมีแนวโน้มที่จะมีมุมมอง ความคาดหวัง หรือบทบาทที่ไม่ตรงกัน

หากไม่มีแนวทางร่วมที่ตกลงกันไว้แต่เนิ่น ๆ ความขัดแย้งจะเริ่มตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ เช่น ใครจะเข้ามาบริหาร ใครควรได้ผลตอบแทน ไปจนถึงเรื่องใหญ่ เช่น การขายกิจการหรือส่งต่อให้รุ่นถัดไป

ความเข้าใจผิดที่ 2 “เขียนพินัยกรรมแล้ว ไม่ต้องมีธรรมนูญครอบครัวก็ได้”

อีกหนึ่งความเข้าใจผิดคือ การคิดว่าแค่มีพินัยกรรมก็เพียงพอแล้วสำหรับการวางแผนอนาคต ความจริงคือ พินัยกรรมกับธรรมนูญครอบครัวมีหน้าที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง

  • พินัยกรรม คือเอกสารที่ใช้ “หลังจากเจ้าของกิจการเสียชีวิต” เพื่อระบุว่าทรัพย์สินจะถูกส่งต่อให้ใคร

ธรรมนูญครอบครัว คือข้อตกลงร่วมที่ใช้ “ในขณะที่ทุกคนยังมีชีวิตอยู่” เพื่อกำหนดบทบาท แนวทางการทำงานร่วมกัน วิธีการตัดสินใจ และวิธีป้องกันความขัดแย้งในครอบครัว

ตัวอย่างเช่น พินัยกรรม อาจระบุว่า ลูกทั้งสามคนจะได้หุ้นเท่า ๆ กัน แต่ไม่มีการระบุว่า ใครจะเป็นผู้บริหาร ใครจะมีสิทธิออกเสียง หรือใครควรได้รับค่าตอบแทนแบบไหน ธรรมนูญครอบครัว สามารถระบุสิ่งเหล่านี้ได้ และยังช่วยอธิบาย “เจตนารมณ์” ของผู้ก่อตั้งให้คนรุ่นหลังเข้าใจตรงกัน หากมีพินัยกรรมเพียงอย่างเดียว มักจะเกิดคำถามหลังจากเจ้าของกิจการเสียชีวิตว่า “ทำไมเราต้องแบ่งแบบนี้” หรือ “ใครมีสิทธิบริหารจริง ๆ?” ซึ่งหลายกรณีจบลงด้วยความขัดแย้งในศาลหรือในครอบครัวเอง

ความเข้าใจผิดที่ 3 “ทำธรรมนูญครอบครัวแล้ว ครอบครัวจะไม่ทะเลาะกันเลย”

ธรรมนูญครอบครัวไม่ใช่เครื่องมือพิเศษที่จะทำให้ทุกอย่างสงบสุขได้ตลอดไป ความคาดหวังว่าการมีเอกสารเพียงฉบับเดียวจะป้องกันทุกปัญหา อาจเป็นความคาดหวังที่ผิด

ความจริงคือ ธรรมนูญครอบครัวเป็น “เครื่องมือบริหารความสัมพันธ์และความคาดหวัง” ที่มีประสิทธิภาพสูง หากได้วางแผนดังนี้

  • มีการทำความเข้าใจร่วมกันตอนจัดทำธรรมนูญครอบครัว
  • ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการร่างและแสดงความคิดเห็น
  • มีการปรับปรุงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละช่วงเวลา หรือการรีวิวธรรมนูญครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ
  • สำคัญที่สุดคือ “การสื่อสารอย่างต่อเนื่อง” เพราะแม้จะมีธรรมนูญครอบครัว แต่ถ้าไม่มีการพูดคุยอย่างสม่ำเสมอ ก็อาจทำให้เอกสารกลายเป็นเพียงกระดาษหนึ่งแผ่นที่ไม่มีใครหยิบมาใช้งานจริง

ตัวอย่างเช่น ครอบครัวหนึ่งทำธรรมนูญไว้ดีมาก แต่ไม่เคยนำมาทบทวนหรืออัปเดตเลยเป็นเวลากว่า 10 ปี จนลูกหลานคนใหม่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีเอกสารนี้อยู่ สุดท้ายเมื่อเกิดปัญหา เอกสารก็ไม่สามารถช่วยได้

ความเข้าใจผิดที่ 4 “ครอบครัวเรารักกันดี ไม่เห็นต้องมีธรรมนูญครอบครัว”

ความสัมพันธ์ในครอบครัววันนี้ อาจไม่ใช่ความสัมพันธ์ในวันพรุ่งนี้ โดยเฉพาะเมื่อมีเรื่องเงิน หุ้น ทรัพย์สิน หรือคนที่แต่งงานเป็นสมาชิกใหม่เข้ามาเกี่ยวข้อง

ธรรมนูญครอบครัวไม่ใช่เครื่องมือป้องกันการโกง แต่คือเครื่องมือ “ป้องกันความเข้าใจผิด” และเป็นกรอบอ้างอิงเวลามีเรื่องละเอียดอ่อน เช่น

  • การตัดสินใจเรื่องใหญ่ในธุรกิจ
  • การแต่งตั้งคนรุ่นใหม่ขึ้นเป็นผู้นำทางธุรกิจ
  • การแบ่งผลประโยชน์และสวัสดิการคนในครอบครัว

ถ้ามีหลักเกณฑ์ที่ทุกคนร่วมกันกำหนดไว้ตั้งแต่ต้น จะช่วยลดการใช้อารมณ์ และลดโอกาสที่เรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่

ความเข้าใจผิดที่ 5 “เดี๋ยวรุ่นลูกค่อยทำเองก็ได้”

เจ้าของกิจการหลายคนมองว่าเรื่องพวกนี้ “เดี๋ยวลูกทำต่อเอง” แต่ในความเป็นจริง หากไม่มีแนวทางที่ผู้ก่อตั้งเริ่มต้นไว้ รุ่นถัดไปจะยิ่งสับสน และอาจเกิดความขัดแย้งเพราะไม่มีแผนที่เดินตาม

ธรรมนูญครอบครัวที่ดีต้องเริ่มจากรุ่นก่อตั้ง เพราะคุณคือคนเดียวที่มีทั้งภาพใหญ่และความเข้าใจในธุรกิจและครอบครัวทั้งหมด การวางแนวทางไว้ จะช่วยให้ลูกหลานเดินต่อได้โดยไม่ต้องเดาทาง ไม่ต้องตัดสินใจบนความคาดหวังที่คลุมเครือ

ถ้าคุณยังไม่มีธรรมนูญครอบครัว อาจถึงเวลาที่ต้องเริ่ม

ความเข้าใจผิดเพียงเล็กน้อย อาจทำให้ธุรกิจครอบครัวต้องเจอความขัดแย้งที่ป้องกันได้ ธรรมนูญครอบครัวไม่ใช่เอกสารทางกฎหมายแข็งๆ แต่คือข้อตกลงร่วมที่ใช้ดูแล “ความสัมพันธ์” ให้ไปพร้อมกับ “ความสำเร็จ” ของกิจการ

“ยิ่งคุณเริ่มเร็ว ยิ่งมีเวลาเรียนรู้ ปรับเปลี่ยน และทำให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน”

อยากรู้ว่าครอบครัวคุณเหมาะจะมีธรรมนูญหรือยัง? ให้ Idol Planner Consulting ช่วยประเมิo เราเชี่ยวชาญในการออกแบบธรรมนูญครอบครัวที่สอดคล้องกับโครงสร้างธุรกิจและวัฒนธรรมของบ้านคุณ ช่วยออกแบบกระบวนการพูดคุย สะท้อนความคิดเห็นของทุกฝ่าย และร่างธรรมนูญที่เข้าใจง่าย ใช้ได้จริง พร้อมเวิร์กช็อปและที่ปรึกษาที่ดูแลคุณแบบใกล้ชิด

📌 เพราะความสัมพันธ์ในครอบครัว ไม่ควรพังเพราะธุรกิจ แต่ควรเติบโตไปพร้อมกัน


สำหรับท่านที่ต้องการสอบถามหรือรับคำปรึกษาเบื้องต้น
สามารถกรอกรายละเอียดได้ที่ฟอร์มแนบ
https://forms.gle/YMvaxRmnpqiNUGdVA

หรือติดต่อตามช่องทางที่ปรากฎไว้ดังนี้
Line : @idolplanner
Tel : 02-010-8823

ติดต่อเราบริษัท Idol Planner Consulting ตอนนี้เลย

ผู้นำด้านการบริหารจัดการธุรกิจครอบครัว

ธุรกิจครอบครัว-กงสี คืองานถนัดของเรา

บริษัท ไอดอลแพลนเนอร์ จำกัด พร้อมช่วยสร้างความชัดเจนและความเป็นมืออาชีพให้กับธุรกิจครอบครัว ด้วยโซลูชั่นที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจครอบครัวโดยเฉพาะ พันธกิจของเราคือการช่วยเหลือให้ธุรกิจของครอบครัวคุณเติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการสร้างความสัมพันธ์ที่เป็นปึกแผ่นให้กับครอบครัวของคุณ