ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเราอาจได้ยินข่าวครึกโครมเกี่ยวกับทรัพย์สินในครอบครัวที่ประกอบธุรกิจร่วมกัน โดยเฉพาะของครอบครัวที่บริหารธุรกิจในระบบกงสี ซึ่งเป็นประเภทธุรกิจที่มีจำนวนมากในประเทศไทย ทั้งขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ แม้ในบางกรณีจะมีการจัดทำพินัยกรรม แต่ก็มีความเสี่ยงที่ลูกหลานจะทำการฟ้องร้องแย่งมรดกในกรณีต่อมา
เพราะธุรกิจประเภทกงสีส่วนใหญ่ มักจะประสบความสำเร็จมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ ลูกหลานทุกคนมีส่วนร่วมในธุรกิจกงสี ถึงบางครอบครัวจะมีการวางตัวผู้สืบทอดไว้ชัดเจนหรือไม่มีการวางตัวก็ตาม อาจทำให้ทายาทคนอื่น ๆ รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมจากส่วนแบ่งที่ได้รับ
เนื่องจากลูกหลานแต่ละคน มีหน้าที่ในธุรกิจครอบครัวไม่เท่ากัน บางคนอาจรู้สึกว่าตนเองเป็นผู้ที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จมากขึ้น ทำหน้าที่มากกว่าพี่น้องคนอื่นและทำได้ดีกว่าคนอื่น ถ้าใช้แนวทางแบ่งมรดกด้วยการทำพินัยกรรม ทายาทก็จะเกิดการคาดหวัง เมื่อผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ก็จะกลายเป็นต้นตอของปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันในครอบครัว
โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่ได้วางตัวผู้สืบทอดธุรกิจเอาไว้ อาจจะทำให้สมาชิกในครอบครัวคนใดคนหนึ่งใช้โอกาสนี้ในการปลดพี่น้องและหลาน ๆ คนอื่น ๆ ออกจากบทบาทในธุรกิจกงสี และแต่งตั้งลูก ๆ ซึ่งเป็นสายตรงของตัวเองขึ้นมาดำเนินการแทน ก็เป็นกรณีที่มีให้เห็นกันทั่วไป
จะเห็นได้ว่าแนวทางการแก้ไขปัญหาอย่างการแต่งตั้งผู้สืบทอดธุรกิจ อาจจะยังไม่เพียงพอที่จะทำให้สมาชิกในครอบครัวสมานฉันท์กัน เพราะภายในครอบครัวขาดข้อตกลงร่วมกันที่เรียกว่า “ธรรมนูญครอบครัว”
ธรรมนูญครอบครัวเป็นเหมือนการสร้าง “วัฒนธรรมภายในครอบครัว” ให้สมาชิกทุกคนปฏิบัติตามข้อตกลงที่มีร่วมกัน เพื่อสร้างบรรทัดฐานที่ชัดเจน ให้สามารถรองรับสมาชิกที่จะเพิ่มจำนวนขึ้นและการเติบโตของธุรกิจครอบครัวที่จะขยายตัวมากขึ้นในอนาคต
การสร้างวัฒนธรรมของครอบครัวควรเริ่มตั้งแต่รายละเอียดเล็ก ๆ ไปจนถึงรายละเอียดใหญ่ ๆ
เช่น
▶ การจัดตั้งสภาครอบครัวที่จะเข้ามาดูแลสมาชิกทั้งหมด ต้องมีการกำหนดคุณสมบัติที่ชัดเจนของคนที่จะเข้ามาเป็นตัวแทน
▶ กำหนดบทบาทและหน้าที่ของสมาชิกในครอบครัวแต่ละคน
▶ สร้างข้อตกลงเรื่องสวัสดิการของสมาชิกภายในครอบครัว การบริหารจัดการทรัพย์สินภายในครอบครัว
▶ สร้างกติกาในการลงคะแนนเสียงหรือมติ ในวาระต่าง ๆ ของครอบครัว
▶ จัดตั้งการประชุมระหว่างสมาชิกในครอบครัว อาจจะเป็นการประชุมประจำปี ตามวาระต่าง ๆ หรือกำหนดเวลาให้สมาชิกทั้งหมดได้มีปฏิสัมพันธ์กัน
เมื่อมีวัฒนธรรมครอบครัวที่ดีแล้ว ความขัดแย้งภายในครอบครัวก็จะหมดไป ทั้งยังช่วยสร้างความสมานฉันท์ ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสมาชิก ช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จในระยะยาว และยั่งยืนในอนาคต การบริหารทรัพย์สินโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้
การสร้างความมั่นคงภายในครอบครัวไม่ได้เป็นเพียงการสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจเท่านั้น แต่ส่งผลไปไกลถึงระดับประเทศ เพราะธุรกิจครอบครัวเป็นรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ ไม่ใช่แค่ในไทย แต่รวมถึงประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก แต่แนวคิดในการจัดตั้งธรรมนูญครอบครัวเพื่อสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจ ยังไม่ได้รับความนิยมมากเท่าไหร่นักในประเทศไทย