Exit Plan คืออะไร?
คือกลยุทธ์การออกจากธุรกิจในกรณีที่กิจการเกิดความผิดพลาดหรือเป็นแผนการที่เจ้าของกิจการต้องการวางมือ เมื่อรู้สึกว่ามาถึงจุดอิ่มตัวจุดหนึ่ง จึงต้องการส่งต่อธุรกิจให้กับทายาท รวมถึงการขายและลดสัดส่วนความเป็นเจ้าของให้กับนักลงทุนเองก็ตาม
โดยการ Exit สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เพื่อรักษาความมั่งคั่งหลังจากวางมือจากธุรกิจแล้ว การวางแผนจึงจำเป็นต้องดำเนินการควบคู่ไปกับการวางแผนการเงินส่วนบุคคลด้วย ยิ่งมีเวลาเตรียมตัวนานเท่าไหร่ ก็สามารถมีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากกว่า
ทำไมธุรกิจต้องมี Exit Plan?
- เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต และมีแนวโน้มว่าจะส่งผลกระทบเชิงลบกับกิจการ
- เป็นการสร้างแผนธุรกิจที่เริ่มตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปจนถึงปลายทาง ที่ไม่ใช่แค่เพียงการขยายกิจการ แต่ครอบคลุมไปถึงการเตรียมการสำหรับผู้สืบทอดกิจการ
- เพื่อเตรียมการขายหุ้นทั้งหมดหรือบางส่วนให้แก่บุคคลภายนอก ให้มีมูลค่าและสร้างความน่าดึงดูดให้กับนักลงทุน
- เพื่อเตรียมแผนการเงินหลังเกษียณให้แก่เจ้าของธุรกิจหลังวางมือ เพราะเมื่อถึงเวลาออกจากธุรกิจ รายได้จากเงินรายเดือนหรือเงินปันผลก็จะต้องหมดไป เนื่องจากเราไม่ใช่เจ้าของกิจการอีกต่อไป จึงจำเป็นต้องมีที่ปรึกษาด้านการเงินเข้ามาช่วยให้คำแนะนำ ปรึกษา ไม่ว่าจะเป็นการคำนวณเงินที่ต้องใช้จ่าย ที่มาของรายได้ รูปแบบการเก็บออมหรือการลงทุน
รู้ได้อย่างไรว่าตอนไหนควรต้องใช้ Exit Plan
ทุกธุรกิจควรมีการวางแผนตั้งแต่เริ่มทำกิจการ เพื่อเป็นการวางแผนตั้งแต่ต้นจบจบ อุดรูรั่วความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ถ้าเริ่มวางแผนหลังจากเกิดเหตุการณ์ดังต่อไปนี้
- รู้สึกถึงจุดอิ่มตัวกับธุรกิจ ต้องการพักผ่อนหรือหาความท้าทายใหม่ ๆ และอยากส่งต่อกิจการให้กับทายาทรับช่วงต่อ
- ผลประกอบการไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เป็นระยะเวลานาน
- ธุรกิจไม่สร้างผลกำไร ส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงิน
- ธุรกิจเติบโตค่อนข้างช้า เนื่องจากอยู่ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง จนส่งผลโดยตรงต่อกำไร
จะยากต่อจากวางแผน Exit ซึ่งมีผลทำให้เกิดข้อจำกัดในออกจากธุรกิจโดยไม่มีทางเลือกมากนัก จนบางกรณีหลาย ๆ กิจการต้องจดเลิกบริษัท ปิดกิจการไปเลยทีเดียว
Exit Strategy มีอะไรบ้าง?
- เสนอขายหุ้นให้แก่บุคคลทั่วไป (IPO)
เพื่อเพิ่มช่องทางการระดมทุน เปลี่ยนสภาพจากบริษัทจำกัดเป็นบริษัทมหาชน ที่ช่วยสร้างโอกาสเติบโตและมอบโอกาสให้ประชาชนเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้น และเพิ่มสภาพคล่องให้กับผู้ถือหุ้นไปโดยปริยาย โดยการ IPO ก็จะทำให้บริษัทมีภาระหน้าที่เพิ่มขึ้น เช่น ต้องโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูล มีคณะกรรมการอิสระในการตรวจสอบเป็นต้น
- การควบรวมกิจการ
หมายถึงบริษัท 2 แห่งควบรวมเข้าเป็นบริษัทเดียวกัน เช่น กรณีของธนาคารทหารไทยและธนาคารธนชาต ซึ่งก็คือการเปิดทางเลือกให้ขายกิจการให้กับผู้ที่สนใจนั่นเอง
- การขายกิจการ
คือการที่บริษัทอื่น ๆ เข้าซื้อกิจการในรูปแบบหุ้นหรือสินทรัพย์ เช่น Facebook เข้าซื้อ Instagram, WhatsApp สิ่งที่เจ้าของกิจการจะได้รับคือผลตอบแทนจากมูลค่าหุ้นและสัดส่วนของมูลค่าสินทรัพย์ที่ขายออกไป
- Cash Cow
ใช้ในกรณีที่ธุรกิจนั้น ๆ ครอบครองส่วนแบ่งทางการตลาดในฐานะผู้นำ สามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง แม้บ่างช่วงจะมีอัตราการเติบโตลดลง แต่ก็เป็นธุรกิจที่มีความยั่งยืน เช่น Apple, Coca-Cola ทำให้เจ้าของกิจการสามารถวางมือเพื่อให้ผู้ที่ไว้ใจและมีความสามารถขึ้นมาบริหารแทน โดยอาจจะเป็นบุคลากรในบริษัท ผู้ถือหุ้น หรือจะเป็นการจ้าง CEO จากภายนอกก็เป็นได้
- การเลิกกิจการและชำระหนี้
ในกรณีที่ธุรกิจไม่สามารถไปต่อได้แล้ว การปิดกิจการ ขายทรัพย์สินทั้งหมดและนำไปชำระหนี้ และแบ่งส่วนให้ผู้ถือหุ้น ถือเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด แต่ไม่ได้สร้างมูลค่าใด ๆ ให้กับธุรกิจ ผลตอบแทนที่รับอาจต่ำลงไปด้วย เพราะชื่อเสียงทางธุรกิจได้รับผลกระทบ ทำให้ทรัพย์สินที่ขายออกไปต้องขายถูกกว่าราคาปกติ
- การสืบทอดกิจการครอบครัว
เป็นการโอนถ่ายธุรกิจทั้งหมดให้กับผู้สืบทอดที่เป็นสมาชิกในครอบครัว นับว่าเป็น Exit Strategy ด้วยเช่นกัน เมื่อเกิดขึ้นตอนที่ทายาทมีความพร้อมและเจ้าของกิจการมีแผนการเตรียมตัวเกษียณจากธุรกิจอย่างมั่นคง
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าการวางแผนให้ธุรกิจตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ใช่เรื่องน่ากลัวแต่อย่างใด แต่เป็นการเตรียมพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจทั้งด้านบวกและลบที่อาจเกิดขึ้น และเป็นกลยุทธ์จำเป็นที่เจ้าของกิจการต้องมีการเตรียมพร้อมและวางแผนไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อสร้างความมั่นคงและง่ายต่อการตัดสินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ ในอนาคต
เตรียมพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงไปกับ Exit Plan จาก Idol Planner
Idol Planner สร้างแผนครอบคลุมสำหรับอนาคต ด้วยการวางแผน Exit ล่วงหน้าก่อนเกิดปัญหา ให้เจ้าของธุรกิจรู้ว่าเมื่อถึงเวลาควรจะออกจากธุรกิจอย่างไร และมั่นใจได้ว่าจะไม่มีปัญหาในด้านการจัดการทรัพย์สินของธุรกิจรวมถึงด้านการเงิน
เรามีมุมมองรอบด้าน ทำให้เห็นปัญหาและโอกาสที่สามารถพัฒนาต่อยอดได้ เพื่อเพิ่มมูลค่าธุรกิจในทุก ๆ ด้าน มีการจัดวางโครงสร้างธุรกิจและจัดการภาษี ทั้งระหว่างดำเนินการไปจนถึงการส่งต่อ
ผ่านทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญรอบด้าน ทั้งด้านบัญชี ภาษี การประเมินมูลค่ากิจการและกฎหมาย ภายใต้การยึดหลักความถูกต้องและเหมาะสม ทั้งในทางศีลธรรมและกฎหมาย ทุกขั้นตอนการทำงานโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้
พร้อมกระบวนการในการติดตามเป็นระบบ มีการจัดทำรายงานที่ชัดเจน ให้เจ้าของธุรกิจสามารถมั่นใจได้ว่ากลยุทธ์ที่เราสร้างสามารถดำเนินการได้ตั้งแต่วันนี้จนถึงเวลาต้อง Exit
ติดต่อ Idol Planner
02-010-8823 หรือ 085-155-0554